ปัญหายาเสพติดในชุมชน จุดสิ้นสุดคือจิตใต้สำนึก ต้องขุดให้เจอ ไม่เลี้ยงก็ทำปุ๋ย!
นโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐ เพื่อให้ประชาชนห่างไกลพิษภัยของสารเสพติืด ที่หลาย ๆ ครอบครัวเคยประสบแม้ในปัจจุบัน ยังมีให้ได้ยินกันบ้าง ในประเทศที่พัฒนาแล้วก็ยังมีให้เห็นกันแต่อาจจะคนละชนิดกัน นั่นหมายถึง ระดับของความรู้ที่ต่างกัน ทำให้เสพติืดต่างกัน ดังนั้น ความรู้อาจไม่มีผลต่อการใช้สารเสพติืด แต่ภาวะอารมณ์น่าจะมีผล สารเสพติดแต่ละชนิดออกฤทธิ์คล้ายกันมีผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดลืมความทุกข์ไปชั่วครู่ และชั่วครู่ของคนติดยานั้น หาได้ยากมาก ประเด็นนี้ การทำเรื่องบำบัดต้องเข้าใจ จะจับมาเขย่า ๆ แล้วเทใส่แก้วแล้วกรองเป็นน้ำสะอาด นั่น ลม ๆ แล้ง สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ไ้ร้อุดมการณ์ อันจะนำไปสู่การลด ละ เลิก ได้ยาก นั่้นหมายถึง ต้องใช้ภาวะการเข้าถึงจิต เข้าใจในวิถีชีวิต พร้อมเรียนรู้และประคับประคองอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง ต้องเชื่อมโยงวิถีชุมชนเข้ามามีบทบาทให้มาก ประกอบด้วย ผู้นำ ด้านต่าง ๆ ทั้งเป็นทางการไม่เป็นทางการ เน้นสิ่งที่สามารถยึดเนี่ยวจิตใจ จรรโลงจิตใจ มิใช่มาตบมือแปะ ๆ บอกว่าไม่ดีนะ ใช้ไม่ได้อย่าไปยุ่ง แล้วกลับบ้าน เราต้องเป็นคนดี ศรีอะไร ๆ สุดท้าย ไม่นาน.....นั้นหมายถึง ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนที่มาจากจิตใต้สำนึกของเขาเอง ก้นบึ้งแห่งความรักตนเอง รักครอบครัว รักเพื่อน รักธรรมชาิติ ให้เกิดความอยากในทางสร้างสรรค์ พร้อมกับการฝึกพลังกาย พลังสมอง ทดสอบพลังจิตว่าแกร่งขนาดไหนก่อนมอบรางวัลอันทรงคุณค่า เป็นผู้พร้อมจะออกสู่โลกภายนอกแม้ไม่ใช่้ยาเสพติดก็ตาม หากทำไม่ได้คงติดล่มความต้องการที่วางอยู่ตรงหน้า และเป็นนักค้า นักเสพอย่างไม่ สิ้นสุด