"หมอครับมียาฉีดบ่" "หมอครับมียาฉีดบำรุงบ่" "หมอมียาฉีดเพิ่มเลือดบ่" นี่คือ คำพูดของคนไข้หรือผู้มารับบริการสมัยทำงานใน สถานีอนามัย ช่วง 10-20 ปีก่อน เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนคำ ๆ นี้ ไม่น่าจะเกิดขึ้นมาอีกตามนโยบายการสร้างสุขภาพ การยกระดับหน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ เสียการรณรงค์สร้างสุขภาพในรอบหลายปีที่ผ่าน แค่ความเห็นแก่ตัวของคน มาทำให้ระบบบริการที่เรียกว่า "โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล"เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ ความเชื่อเก่า ๆ เริ่มเข้าทำลายระบบการสร้างสุขภาพ เห็นเข็มฉีดยาเป็นทางออกที่ดี โธ่.....ไม่น่าทำแบบนี้ คิดสิ้นไปรึเปล่า คนที่ทำหรือปฏิบ้ติควรหวนกลับไปทบทวน ว่าตนเองกำลังจะทำบาปกับตัวไตไส้พุงของชาวบ้าน ให้ลุ่มหลงประเด็นการดูแลสุขภาพตนเองหรือไม่ ...มีหลายรายที่แพ้ยามา ก็ต้องตามแก้กันไป แต่นี่เกินไปแล้ว ...ถ้าอยากทำต่อ ก็ทำไป เพราะการจับเข็มฉีดยามาฉีดกะคน ฝึกนิด ๆ หน่อย ใคร ๆ ก็ทำเป็น แต่จะรู้ซื้งถึงผลข้างเคียง อาการหลังการใช้ยาจะเป็นอย่างไร หากแพ้มาจะทำอย่างไร อะไรคือคำรับประกัน พรบ.ตัวไหนบ้าง รู้มั้ย สักแต่ว่าฉีด ๆ ๆ ทำให้ชาวบ้านหลงประเด็นมากเกินไป.....ใช่ ชาวบ้านไม่ถามหรอกว่า ใครคือหมอ ใครลูกจ้าง ใครนักวิชาการ....เป็นญาติท่าน เป็นตัวท่าน ท่านจะให้ใครดูแล อย่าบอกนะว่าเป็นใครก็ได้ ...สงสารชาวบ้านเถอะ อย่าหวังแต่เงิน เพื่อจุนเจือครอบครัว เงินไม่พอใช้ก็ มาบอกกัน ดี ๆ หาทางออกให้ ประหยัดกิน ประหยัดใช้ อย่าฟุ่มเฟือย หากความว่าตนเองรวย ๆ ๆ ๆ ก็จะใช้จ่ายเกินตัว ....ชาวบ้านก็จะไม่เดือดร้อน